Amazing AEC – 3 ต่อ 19

0
480

วันที่ 3  พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันรัฐธรรมนูญของประเทศญี่ปุ่นครับ เพราะเมื่อ 68 ปีที่แล้วรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เริ่มมีผลบังคับใช้ ที่น่าอะเมซิ่งก็คือนับตั้งแต่ปีแรกที่ญี่ปุ่นมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกใช้คือปี พ.ศ. 1147 จนถึงปัจจุบันญี่ปุ่น เพิ่งมีรัฐธรรมนูญแค่ 3 ฉบับ ส่วนไทยเรากำลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20  กันอยู่

ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของไทยเราคลอดทันปีนี้ ก็แปลว่า 83 ปีของการเป็นประชาธิปไตย เราใช้รัฐธรรมนูญไปทั้งหมด 19  ฉบับ เฉลี่ยฉบับหนึ่งๆเราใช้งานกันฉบับละ 4 ปีกับอีก 4 เดือนเศษๆ ทิ้งห่างญี่ปุ่นเพราะญี่ปุ่นใช้รัฐธรรมนูญฉบับละ 470 ปี เราอาจะผลิตของใหม่ๆไม่ทันญี่ปุ่นแต่เรื่องการผลิตรัฐธรรมนูญใหม่ๆนี่เราเหนือกว่าญี่ปุ่นแน่นอนครับ

รัฐธรรมนูญฉบับแรกของญี่ปุ่นนั้นออกมาในสมัยที่ญี่ปุ่นยังปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตย รัฐธรรมนูญสมัยนั้นจึงมี วัตถุประสงค์กว้างๆในการนำพาประเทศให้มีความสงบสุขเป็นแม่บทในการบริหารประเทศเช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญทั่วไป

ต่อมาในปีพ.ศ. 2396  ซึ่งอยู่ในช่วงการรุกรานเข้ามาในภูมิภาคเอเชียของประเทศมหาอำนาจอาทิ สหรัฐอเมริกาและ ประเทศแถบยุโรป เมื่อเข้ามาอยู่ในประเทศในภูมิภาคนี้ประเทศเจริญแล้วถือว่าตัวเองมีกำลังทางการทหารที่เหนือกว่า และอ้างว่าประเทศแถบนี้มีกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เป็นธรรม จึงได้บังคับขืนใจว่าพวกเขามีสิทธิพิเศษ หลายๆ อย่างบน ประเทศญี่ปุ่น อาทิ หากคนของเขาทำผิดกฎหมายญี่ปุ่นก็ไม่ต้องขึ้นศาลญี่ปุ่นแต่สามารถไปขึ้นศาลของสหรัฐได้ เท่ากับว่าญี่ปุ่นกำลังสูญเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต เหมือนๆ กับที่ประเทศไทยเราโดนในสมัย ร.4 และ ร.5 นั่นเอง

การเขียนรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 จึงมีวัตุประสงค์เพื่อทำระบบกฎหมายให้ทันสมัยและหลุดพ้นจากการเสียสิทธิสภาพนอก อาณาเขตนั่นเอง และในสมัยนั้นรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นยังเขียนไว้ชัดเจนว่าจักรพรรดิทรงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ใดจะล่วงละเมิด มิได้ และมอบอำนาจทุกอย่างให้แก่พระองค์ท่าน สอดคล้องกับความเชื่อที่ว่าจักรพรรดินั้นเป็นเทพที่สืบเชื้อสายมาจาก เทพพระอาทิตย์ให้จุติลงมาปกครองประเทศนั่นเอง

การแก้รัฐธรรมนูญครั้งต่อมาเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่นหลังจากโดนระเบิด ปรมาณูไป 2 ลูก สหรัฐจึงเป็นคนมาเขียนรัฐธรรมนูญให้ญี่ปุ่นใช้ โดยรัฐธรรมนูญฉบับที่ 3  นี้มีสาระสำคัญอยู่ที่การลด อำนาจทางการทหารของญี่ปุ่นออกเพื่อมิให้ญี่ปุ่นสั่งสมกองกำลังทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีก และได้มีการลดพระราชอำนาจของจักรพรรดิลงให้เหลือเป็นเพียงสัญลักษณ์ของประเทศเท่านั้น

ภายหลังแพ้สงครามโลก แม้จะอยู่ในสภาวะประเทศชาติเสียหายยับเยินแถมยังต้องบริหารประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่สหรัฐเขียนจำกัดบทบาทให้ทำตาม แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ยอมแพ้โชคชะตาแต่ก้มหน้าก้มตาฟื้นฟูประเทศตัวเองจนประเทศ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและได้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้ภายในระยะเวลาไม่กี่สิบปีเท่านั้นเอง

ส่วนประเทศไทยของเราในอดีตนั้นพัฒนาการของประเทศไม่ได้แตกต่างจากญี่ปุ่นมากนัก สงครามก็ไม่เคยแพ้ ไม่เคย เป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่เคยโดนระเบิดปรมาณู การเปลี่ยนผ่านการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยก็ไร้ความรุนแรง กลับยังติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางมานานอย่างชนิดที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะก้าวข้ามกับดักอันนี้ไปได้ง่ายๆ แถมตอนนี้ เรายังหลงไปติดกับดักรัฐธรรมนูญอีกกับดักหนึ่งโดยมีความเชื่อกันว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญให้ดีได้แล้วประเทศจะดีไปด้วย ทั้งที่กลุ่มคนร่างก็กลุ่มเดิมๆและก็ลองผิดลองถูกร่างกันมาหลายฉบับเต็มทีแล้ว เราก็ยังเชื่อยังหวังกันอีก

ไม่รู้ว่าน่าอะเมซิ่งหรือน่าอะเฟรดกันแน่นะครับ

[smartslider3 slider="9"]