Amazing AEC – เขียนยุทธศาสตร์ชาติแบบสิงคโปร์

0
602

สองตอนที่ผ่านมาผมบอกท่านผู้อ่านว่าไม่เคยมียุทธศาสตร์ชาติที่แท้จริง และเมื่อเริ่มเขียนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็เริ่มแบบ ผิดทางเพราะแค่การวางตำแหน่งประเทศ ก็วางไว้เสียกว้างเวิ้งว้าง และสิ่งที่เมืองไทยเรายังไม่เคยมีจนกระทั่งตอนนี้ก็คือ “นโยบายกำหนดแนวปฏิบัติ” ที่จะกำหนดกรอบแนวทางว่าหน่วยงานไหนต้องทำอะไรอย่างไรเมื่อไหร่ใช้งบประมาณ เท่าไหร่และต้องประสานกับหน่วยงานอื่นอย่างไร จึงจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้ได้จริง

สิงคโปร์เมื่อตอนแยกตัวออกจากมาเลเซียในปี พ.ศ. 2508 นั้น สถานะความเจริญของประเทศไม่ได้แตกต่างจากประเทศ ไทยเราเลย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม จะว่าไปแล้วไทยเราดูดีกว่าสิงคโปร์เสียอีกเพราะประเทศมีพื้นที่ มากกว่า มีทรัพยากรมนุษย์มากกว่า แถมมีทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าสิงคโปร์เยอะแยะ

ลีกวนยู จึงทำการวิเคราะห์ SWOT ของประเทศและพบว่าตำแหน่งประเทศที่เหมาะสมของสิงคโปร์คือการเป็น “ศูนย์กลาง การค้าขายและศูนย์กลางการเงิน” ของภูมิภาค ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคนสิงคโปร์ต้องสื่อสารและทำงาน “เก่ง” กว่าคนใน ประเทศเพื่อนบ้าน และการทำธุรกิจในสิงคโปร์นั้นจะต้องสะดวกสบายง่ายและโปร่งใส

ลีกวนยู จึงสั่งการให้สถาบันการศึกษาทุกระดับในสิงคโปร์สอนเป็นภาษาอังกฤษเพื่อที่คนสิงคโปร์จะทำให้พูดภาษา อังกฤษ เก่งกันทุกคน จะได้สามารถสื่อสารกับคนทั้งโลกได้ จนคนสิงคโปร์สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดในภูมิภาค นอกจากนี้ลีกวนยูยังเน้นลงทุนในระบบการศึกษา ลงทุนในการสร้างคน ลงทุนดึงคนเก่งระดับต้นๆของประเทศมาเป็นครู จนวันนี้เด็กนักเรียนสิงคโปร์มีความเก่งเป็นที่ 1ของโลก

ในขณะเดียวกัน ลีกวนยูก็เร่งปฏิรูปและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานซึ่งไม่ได้หมายความถึงแค่ถนนหนทางและรางรถไฟ อย่างที่คนไทยคิด แต่โครงสร้างพื้นฐานในความหมายสากลนั้นโลกเขายังรวมหมายถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ปัจจุบันความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของสิงคโปร์นั้นดี ติดอันดับต้นๆของโลก ส่งผลให้สิงคโปร์มีความสามารถในการแข่งขันติดอันดับต้นๆเช่นกัน

ความง่ายในการเริ่มต้นและทำธุรกิจในสิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดให้ธุรกิจทั้งโลกอยากมาลงทุนใน สิงคโปร์ ลีกวนยูจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ จนวันนี้สิงคโปร์ติดอันดับหนึ่งหรือสองในด้านความง่ายในการทำธุรกิจ

ตั้งแต่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษจนถึงตอนที่แยกตัวออกมาจากมาเลเซีย สิงคโปร์ก็ยังเต็มไปด้วยคอร์รัปชั่นเรียก ว่าหนักหนาเหมือนประเทศไทยในยุคสมัยปัจจุบันนี้เลย ลีกวนยูก็รู้ดีว่าไม่มีประเทศไหนจะมาลงทุนในสิงคโปร์หรอก ถ้าสิงคโปร์ยังเต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่น เขาจึงยืนเป็นกำแพงเหล็กให้หน่วยปราบคอร์รัปชั่นของสิงคโปร์ที่ชื่อ CPIB ไล่ปราบคนโกงอย่างไม่ไว้หน้า รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลโกง ลีกวนยูก็ไฟเขียวให้จับติดคุก ปราบกันจนกระทั่งวันนี้สิงคโปร์ มีความโปร่งใสติดอันดับต้นๆของโลก

เมื่อตำแหน่งประเทศชัดเจน ยุทธศาสตร์ชาติจึงชัดเจนและมี “นโยบายกำหนดแนวปฏิบัติ” ที่ทำให้ผู้นำ หน่วยงานต่างๆ และคนในประเทศรู้ว่าใครต้องทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร และผลของการทำงานของแต่ละฝ่ายนั้นจะมาเสริมกันตอนไหน จึงทำให้สิงคโปร์ยกระดับประเทศเป็นศูนย์กลางการค้าการเงินของอาเซียนได้อย่างน่าอะเมซิ่ง

เวลาสิงคโปร์เขียนยุทธศาสตร์นั้น คณะที่มาช่วยกันเขียนนั้นเป็นคณะเล็กๆแต่เก่งทุกคน เวลาเขียนก็เขียนกันสั้นๆกระชับ ชัดเจน รู้สาเหตุปัญหา รู้ว่าประเทศต้องการอะไร และรู้ว่าใครต้องทำอะไรเมื่อไหร่ อย่างไร ด้วยงบประมาณเท่าไหร่และ จะวัดผลได้อย่างไร ผลของการเขียนยุทธศาสตร์ดีและทำเป็นจึงทำให้สิงคโปร์ยกระดับประเทศหนีห่างไปไทยไปเป็น “ประเทศพัฒนาแล้ว” ซึ่งสะท้อนผ่านรายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนสิงคโปร์ซึ่งมากกว่าของคนไทยเกือบ 10 เท่า ทั้งๆที่เมื่อ ก่อนคนของสองประเทศนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวพอๆกัน

[smartslider3 slider="9"]