AEC for Happy Family : พาลูกเที่ยว AEC

0
467
AEC for Happy Family : พาลูกเที่ยว AEC

AEC  for  Happy Family  กับ เกษมสันต์ (มิถุนายน 2557)

พาลูกเที่ยว  AEC

เวลาปิดเทอมคุณแม่คุณพ่อชวนลูกๆไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้างหรือยังครับ ครอบครัวที่เคยพาลูกรักไปเที่ยว ต่างประเทศ ผมคิดว่ามากกว่า 80% คงพาลูกไปเที่ยวนอก AEC ใช่มั้ยครับ เคยถามตัวเองมั้ยครับว่าทำไม เราไม่ค่อยคิดจะพาลูกเราไปเที่ยวประเทศใน AEC แต่เรากลับชอบพาลูกไปเที่ยว ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่นหรือยุโรปมากกว่า

ผมว่าเหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่คุณแม่คุณพ่อไม่เคยคิดพาลูกรักไปเที่ยว AEC ของเราก็เพราะพวกเราไม่ค่อย จะรักเพื่อนบ้านของเราเท่าไหร่ บางรายนอกจากไม่รักแล้วยังออกแนวไม่ชอบหรือแนวดูถูกด้วยซ้ำไป แปลกนะครับ เกิดมาเราก็ไม่ค่อยจะได้เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านใน AEC ของเราซักเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่า ชอบหรืออยากไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านมั้ย คำตอบคือไม่เคยคิดเลยหรือถ้าจะคิดก็น้อยเต็มที ผมเคยวิเคราะห์ ว่าทั้งหมด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตอนเรียนเราโดนล้างสมองด้วยวิธีการสอนและหนังสือประวัติศาสตร์ของไทยเรา ที่เขียนกันซะจนประเทศเพื่อนบ้านกลายเป็นผู้ร้าย ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเราโดนเพื่อนบ้านรังแกตลอด

ไม่ใช่แต่คุณแม่คุณพ่อหรอกครับที่คิดแบบนี้ บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือนักธุรกิจที่ไปทำงาน หรือไปทำมาค้าขายในประเทศเพื่อนบ้านก็มีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับประเทศเพื่อนบ้านเราซักเท่าไหร่ เวลา คนไทยเราไปประชุมหรือไปทำมาค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน ทัศนคติที่ไม่ค่อยดีเหล่านี้ก็เลยทำให้เรา คอยจะเอารัดเอาเปรียบเขาอยู่เรื่อย สุดท้ายก็เลยทำให้เพื่อนบ้านเราก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับประเทศไทยและคนไทย เราเหมือนกัน

ดูอย่าง สปป.ลาวซึ่งมีประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน 5 ประเทศและมีชายแดนติดกับเมืองไทยยาวเกือบๆ 1,800 กิโลเมตร แต่กลับจัดลำดับความสำคัญของไทยไว้อันดับสุดท้ายรองจาก จีน เวียดนาม พม่าและกัมพูชา ก็เพราะคนไทยเวลาไปค้าขายก็คอยแต่จะเอาเปรียบเขา และที่สำคัญพวกเราชอบล้อเลียนคนลาวด้วยภาษาลาว ที่คนไทยเราคิดว่าตลกดีแต่ในความเป็นจริงคนลาวเขาไม่ได้พูดกันแบบนั้น เช่นถ่ายรูปคนลาวพูดว่า “แหกตา” ถ่ายรูปหมู่ก็เลยเป็น “แหกตาสามัคคี” ในภาษาลาว ซึ่งคนลาวเขายังงงๆว่าคนไทยไปเอาจากไหนที่มาล้อเขา ถ่ายรูปในภาษาลาวเรียก “ถ่ายฮูป” ครับ น่าเสียดายนะครับ ประเทศเพื่อนบ้านของเราแท้ๆและเป็นประเทศเดียว ในโลก ที่คนไทยเราเข้าใจภาษาพูด เขาเกือบๆร้อยเปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องเรียนมาก่อน นิสัยใจคอ ประเพณี วัฒนธรรม อาหารการกินก็คุ้นเคยกันที่สุด แต่คนไทยเรากลับทำให้เขารักเราน้อยที่สุดในบรรดาประเทศ เพื่อนบ้าน พวกเราก็รู้จักคนลาวน้อยที่สุด น้อยจนกระทั่งเราไม่รู้เลยว่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ที่ สปป.ลาวเขากำหนดให้เป็น “วันเด็กน้อยสากล” หรือวันเด็กใช่มั้ยครับ?

ไม่เป็นไรครับ ผมจะค่อยๆแนะนำประเทศเพื่อนบ้านของเราใน AEC ให้คุณแม่คุณพ่อรู้จักและเมื่อลูกรักโตพอ จะเดินทาง เราพาเขาไปเที่ยวประเทศใน AEC กันนะครับ ฉบับนี้ผมอยากแนะนำประเทศพี่ใหญ่ของเออีซีก่อน อินโดนีเซียครับ คนไทยเรารู้จักประเทศนี้น้อยมากนะครับ จะรู้จักก็แต่บาหลีเมืองท่องเที่ยวของเขา อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดใน AEC ของเราครับ เฉพาะพื้นที่รวมๆก็ใหญ่กว่าประเทศไทยเกือบ 10 เท่าเลย เพราะอินโดนีเซียเขามีพื้นที่ทั้งที่เป็นพื้นดินและทะเลรวมกันมากกว่า 5 ล้านตารางกิโลเมตรเลย ถ้าดูที่จำนวนคน เขาก็มีมากที่สุดในเออีซีคือมีราวๆ 250 ล้านคนในจำนวนนี้มากกว่า 80% หรือมากกว่า 200 ล้านคนเป็นคนมุสลิม อินโดนีเซียก็เลยเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย นอกจากนี้อินโดนีเซีย ยังถือว่าเป็นประเทศที่มีเกาะมากที่สุดในโลกเพราะเขามีเกาะมากถึง 17,508 เกาะเลยครับ

พอบอกเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก คุณแม่คุณพ่อคงนึกว่าไม่น่าไปเที่ยวทันที เพราะคงจะไม่มีอะไร ให้เที่ยว อาหารการกินก็คงจะไม่อร่อย จะแปลกใจมั้ยครับถ้าผมจะบอกว่าประเทศมุสลิมที่ใหญ่ในโลกประเทศ นี้แหล่ะที่เขามีโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกชื่อ “คาทรีดัลเมอร์ซิแอส” จะเป็นรองก็แค่โบสถ์ที่ “วาติกัน” เท่านั้นเอง ที่สำคัญในโบสถ์แห่งนี้นอกจากจะสร้างอย่างงดงามแล้ว เขายังมีพิพิธภัณฑ์ที่เขาเอา ภาพเขียนที่ดังระดับโลก เยอะแยะซึ่งเขาผลิตซ้ำอย่างเหมือนมากๆมาแสดงไว้ด้วย ตอนที่ผมไปชมภาพชื่อดัง เหล่านี้เดินกันเพลินจนลืมเวลาไปเลยครับ ที่เขาสามารถผลิตซ้ำภาพเขียนดังระดับโลกเหล่านี้ได้อย่างถูกกฎหมาย ก็เพราะภาพเขียนที่มีอายุเกิน 100 ปีแล้วใครๆก็สามารถผลิตซ้ำได้ครับถ้าทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ ไปดูแค่ภาพเขียนเหล่านี้ ก็คุ้มสุดคุ้มละครับ สำหรับคนรักศิลปะหรืออยากให้ลูกรักซึมซับศิลปะระดับโลก

คนอินโดนีเซียนี่แม้จะเป็นแขกมุสลิมและมีลักษณะเหมือนแขกมุสลิมทั่วไป แต่คนอินโดนีเซียนี่กลับมี ลักษณะพิเศษคือยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจดี ผมว่าคนอินโดนีเซียนี่ท่าทางบุคคลิกและนิสัยใจคอน่ารักเหมือน คนไทยเรานี่แหล่ะครับ จะต่างกันก็ตรงเขาผิวเข้มกว่าเราเท่านั้นเอง ลองเข้าไปพูดคุยดูเถอะครับ ยิ้มแย้มแจ่มใส กุลีกุจอช่วยเหลือคนแปลกหน้าเต็มที่เลย

เรื่องอาหารการกินก็มีของอร่อยๆหลากหลาย อย่าไปคิดว่าจะมีแต่อาหารฮาลาลให้ทานเท่านั้น ตรงกันข้ามเลยครับ ที่อินโดนีเซียนี่เขามีอาหารจีนอร่อยๆให้เลือกทานเต็มไปหมด เพราะคนจีนในอินโดนีเซียแม้จะเป็นคนกลุ่มน้อย แต่ก็เป็นคนที่มีฐานะดีและเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศนี้ อินโดนีเซียเขาก็เลยมีร้านอาหารจีนดีๆ  ให้เลือกมากมายแถมอร่อยเด็ดอีกด้วย อาหารจีนหลายร้านที่ผมไปชิมมานี่อร่อยสูสีกับอาหารจีนในฮ่องกง เลยทีเดียวนะครับ อาหารจีนแปลกๆที่เมืองไทยไม่มีให้ทานก็มี

ชอบทานก๋วยเตี๋ยวหมูเหรอครับ? สบายมาก เพราะที่นี่มีก๋วยเตี๋ยวหมูอร่อยๆมีให้เลือกทานหลายร้านเลย มีก๋วยเตี๋ยวหมูร้านหนึ่งที่ผมได้ไปชิมมาขายดีมากครับ ขายวันหนึ่งสองสามชั่วโมงหมดแล้ว อยากทานต้องจอง อย่างเดียว อร่อยมากๆเส้นหมี่เขาทำเองครับ ทานแค่เส้นก็ “ฟิน” เลยทีเดียว อาหารฮาลาลที่ผมไปทานมา บางร้าน ก็รสชาดเข้มข้นอร่อยเลยทีเดียว  อาหารพื้นเมืองของเขาก็มีหลายเมนูที่อร่อยถูกปากคนไทยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ย่าง ปลาเผา สลัดต่างๆ คุณพ่อที่ชอบดื่มไปอินโดนีเซียนี่สบายนะครับเพราะเขามีเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอลล์ให้เลือกดื่ม เหมือนๆ เมืองไทยนี่แหล่ะครับ

ที่แนะนำอินโดนีเซียก่อนเพราะผมคิดว่าคุณแม่คุณพ่อส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยสนใจอินโดนีเซียเท่าไหร่นัก แต่ต่อไม่ สนใจประเทศนี้ไม่ได้แล้วนะครับ เพราะอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจ ใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลกครับ และตอนนี้โลกทั้งโลกกำลังให้ความสนใจกับประเทศนี้ เพราะเดือนกรกฎาคมนี้ เขากำลังจะเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ ตัวเก็งที่จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ โจโค วิโดโด หรือ “โจโควี่” ซึ่งลาออกจากการเป็นผู้ว่ากรุงจาร์กาต้ามาลงสมัครรับเลือกตั้งตามการเรียกร้องของประชาชนครับ เมื่อโจโควี่ก้าว ขึ้นเป็นประธานาธิบดี อินโดนีเซียจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดเลยนะครับ เพราะนอกจากจะเป็นคนทำงาน เก่งมากๆแล้ว โจโควี่นักการเมืองวัย 53 ปีคนนี้ยังเป็นนักการเมืองมือสะอาดแบบที่เมืองไทยเราขาดแคลนอีกด้วย

เมื่อเป็น AEC แล้วลูกรักเราจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเขารักและเข้าใจเพื่อนบ้านทั้ง 9 ประเทศครับ จะเป็นแบบนั้นได้ต้องเริ่มที่คุณแม่คุณพ่อซึ่งต้องปรับทัศนคติตัวเองก่อนแล้วค่อยๆถ่ายทอดไปยังลูกรัก เริ่มต้นตอนนี้ก็ยังไม่สายครับ เริ่มด้วยการพาลูกไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านกัน พาไปแล้วสอนลูกรักให้เรียนรู้ เพื่อนบ้านของเราด้วยใจที่เปิดกว้างแต่ต้องไม่ลืมศึกษาข้อมูลเพื่อนบ้านไปก่อนนะครับ อ่านจาก Mother&Care ก็ได้ครับ ผมจะค่อยๆเอามาเขียนให้อ่านกัน รับรองว่ายิ่งรู้จัก เราจะยิ่งรักเพื่อนบ้าน AEC ของเราครับ

[smartslider3 slider="9"]