AEC for Happy Family : ซีฟู้ดอร่อยๆ ในฟิลิปปินส์

0
465
AEC for Happy Family : ซีฟู้ดอร่อยๆ ในฟิลิปปินส์

AEC for Happy Family กับเกษมสันต์ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2559
ตอน ซีฟู้ดอร่อยๆ ในฟิลิปปินส์
คุณแม่คุณพ่อเคยพาลูกรักไปเที่ยวฟิลิปปินส์กันหรือยังครับ? ส่วนใหญ่คนไทยรุ่นหลังๆยังไม่ค่อยรู้จักและไม่ค่อย ได้ ไปเที่ยวฟิลิปปินส์กันซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนรุ่นก่อนๆนี่เวลาพูดถึงฟิลิปปินส์นี่หูต้องผึ่งกันเลยทีเดียวนะครับ เพราะในสมัยก่อนนั้นต้องถือว่าฟิลิปปินส์นั้นเจริญที่สุดในภูมิภาคนี้เลยนะครับ เจริญกว่าเมืองไทย เศรษฐกิจก็มี ขนาดใหญ่กว่าเมืองไทย ใหญ่กว่าสิงคโปร์ ใหญ่กว่าแม้กระทั่งเกาหลีใต้ รายได้เฉลี่ยเขาก็มากคนไทยเกิน 2 เท่า ตัวเลยทีเดียว
ที่ฟิลิปปินส์เจริญมากกว่าประเทศใน AEC ด้วยกันก็เพราะเมื่อก่อนสหรัฐฯใช้เป็นที่ตั้งฐานทัพ งบประมาณทั้ง หลายจึงถูกทุ่มเทมาที่ฟิลิปปินส์มากกว่าประเทศอื่นๆ ประกอบกับการจับจ่ายใช้สอยของทหารอเมริกัน ก็ยิ่งทำ ให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์เจริญเติบโตมากกว่าเพื่อน แถมระบบการศึกษาก็ล้ำหน้ากว่าประเทศอื่นๆ คนไทยในสมัย ก่อนจึงนิยมส่งลูกหลานไปเรียนที่ฟิลิปปินส์กันเยอะมากนะครับ


แต่ด้วยการปล่อยให้ปัญหาคอร์รัปชั่นหมักหมมและปล่อยให้คนโกงชาติลอยนวล สองทศวรรษที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์จึงตกต่ำลงไปอย่างมาก ทำให้ในวันนี้ขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าเกาหลีใต้ ไทย สิงคโปร์ไปแล้ว รายได้ เฉลี่ยของคนฟิลิปปินส์ในปัจจุบันก็น้อยกว่าคนไทยถึง 2 เท่าตัวเลยทีเดียว แต่ด้วยพื้นฐานความสามารถทางภาษา อังกฤษที่เป็นผลมาจากการถูกปกครองโดยสเปนและสหรัฐมานานกว่า 400 ปี ทำให้วันนี้ฟิลิปปินส์ใช้ความ สามารถทางภาษาอังกฤษและภาษาสเปนนำพาประเทศกลับมาได้แล้ว เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและคาดว่าจะเติบโต ติดอันดับต้นๆของโลกในช่วงจากนี้ไปอีกราวๆ 10 ปีข้างหน้า เพราะคนฟิลิปปินส์นั้นออกมาทำงานต่างประเทศ มากเป็นสิบล้านคนและส่งเงินกลับประเทศปีหนึ่งๆแตะหลักล้านล้านบาทเลยนะครับ นอกจากนั้นการเป็นศูนย์ กลาง คอลเซ็นเตอร์ของโลกแทนอินเดียที่ภาษาอังกฤษติดสำเนียงอินเดียมากกว่าก็สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศ และคนฟิลิปปินส์ได้อย่างมาก ทำให้ประเทศมีงบประมาณไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น


แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชั่นของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เบนิกโน อะกิโนที่สาม กำลังได้ผล ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของฟิลิปปินส์ที่เคยย่ำแย่ คะแนนต่ำกว่าไทยมาโดยตลอดวันนี้คะแนน ของเขาเท่ากับเราแล้ว (แต่ก็ยังต่ำนะครับเพราะได้คะแนนกันแค่ประเทศละ 38 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน) แต่ที่ต่างกันก็คือวันนี้ฟิลิปปินส์ฟื้นจากการเป็นคนป่วยของเอเชียไปแล้ว แต่เมืองไทยกลับกลาย เป็นคนป่วยรายใหม่ของเอเชียไปแทนซะนี่


คนฟิลิปปินส์นี่เป็นคนน่ารักนะครับ มีอัทธยาศัยไมตรีน่ารักดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และที่สำคัญมีความสุภาพ เข้าไปซื้อข้าวซื้อของหรือเดินเที่ยวที่ไหน คนฟิลิปปินส์มักจะคุยกับเราและลงท้ายประโยคด้วยคำว่า “เซอร์หรือมาดาม” เสมอๆ ไม่อย่างนั้นก็ลงท้ายด้วย “โปะ” ภาษาตากาล็อกที่มีความหมาย เหมือนเซอร์และ มาดามนั่นหล่ะครับ นิสัยทั่วไปคนฟิลิปปินส์ก็คล้ายคลึงคนไทยคือรักสนุก รักเสียงเพลง ชอบช็อปปิ้ง สนุกขนาด ประเทศนี้เขาเริ่มฉลองคริสมาสต์กันตั้งแต่เดือนกันยายนเลยก็แล้วกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าเดือนกันยายนนั้น เวลาเขียน เป็นภาษาอังกฤษนั้นลงท้ายด้วย “ber” คือ September เหมือนเดือนธันวาคม December และที่น่าสนใจคือข้าวของ ในฟิลิปปินส์ถูกกว่าเมืองไทยนะครับ อาหารการกินก็อร่อยถูกปากแถมถูกกว่าเมืองไทย
ฟิลิปปินส์นั้นเป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะมากถึง 7,107 เกาะ คุณแม่คุณพ่อคงพอจะเคยได้ยินมาบ้าง แต่ส่วนมาก เรามักจะรู้แล้วก็ลืมคิดต่อไปว่า ถ้ามีเกาะเยอะขนาดนี้ ซีฟู้ดน่าจะสดและถูก ผมเองก็มองข้ามเรื่องนี้ จนกระทั่งได้ ไปทานซีฟู้ดที่นั่น เดือนนี้ก็เลยจะขอพาคุณแม่คุณพ่อตามผมไปทานด้วยกัน เผื่อว่าปิดเทอมนี้จะได้วางแผน พาลูกรักไปเที่ยวฟิลิปปินส์กัน Seafood Market ที่มีชื่อเสียงของฟิลิปปินส์อยู่บนถนน มาคาปากัล ( Macapagal Boulevard) นะครับ ถนนนี้ตั้งชื่อตามนามสกุล ของประธานาธิบดีคนที่ 9 คือประธานาธิบดี ดิออสดาโด มาคาปากัล ซึ่งเป็นบิดาของประธานาธิบดีหญิง กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีคนที่ 14 ที่คนไทยได้ยินชื่อบ่อยกว่าบิดาของเธอ

พอไปถึงซีฟู้ดมาร์เก็ต ภาพที่คุณแม่คุณพ่อจะได้เห็นจะคล้ายๆภาพหมู่บ้านชาวประมงของฮ่องกงที่ยกเอามาไว้ที่นี่ เพียงแต่มีจำนวนร้านของของสดที่ฟิลิปปินส์มีไม่มากและไม่อลังการณ์เท่า แต่เมื่อลองเดินตามร้านของสดต่างๆ ก็จะเห็น กุ้ง กั้ง หอย ปู ปลามีขายมากทีเดียว ที่นี่ร้านจะมีสองแถวนะครับคือร้านค้าแถวนอกจะเน้นการขาย ปลา ล้อบสเตอร์ กุ้ง และกั้งมากกว่าร้านค้าแถวในที่เน้นการขายปูและหอย ราคาของทะเลสดๆที่นี่นับว่าถูกมากๆ เพราะเป็นอาหารทะเลที่เขาจับมาจากทะเลของฟิลิปปินส์เอง อย่างปลาเก๋าเป็นๆที่นี่เขาขายกันกิโลกรัมละ 850 เปโซ หรือ 680 บาทเท่านั้นเอง ส่วนกุ้งชูวาเฮ (Suahe) กุ้งตัวย่อมๆขนาดกุ้งกะตะ บ้านเรา ขายกันกิโลกรัมละ 380 บาท กั้งเป็นๆ ตัวใหญ่ๆไข่แน่นๆขายกันเป็นๆกิโลกรัมละ 1,200 บาทเท่านั้นเองครับ
ที่เข้าท่าก็คือคนฟิลิปปินส์เขาจะเอากั้งใส่ขวดน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตรที่ผ่ากลางเอาไว้ แล้วเอาใส่ตู้ให้ลูกค้า มาเดินเลือก เขาบอกผมว่าถ้าไม่ใส่ขวดเอาไว้ มันจะกัดและกินกันเอง กั้งฟิลิปปินส์นี่ดุชะมัดเลยนะครับ ส่วนหอยนางฟ้า (Diwal) ที่ผมเพิ่งเคยทานที่นี่ขายกันกิโลกรัมละ 320 บาท ที่เรียกหอยนางฟ้าก็เพราะดูจาก เปลือกหอยจะเหมือนปีกนางฟ้าครับ หอยนางฟ้านี่เขานิยม เอาไปนึ่งซีอิ๊วกระเทียมและใส่วุ้นเส้นเหมือน หอยไม้ไผ่ ผมทานแล้วต้องบอกว่าอร่อยดีครับเพราะเนื้อหอยนางฟ้าบางส่วนกรุบๆหมือนหอยไม้ไผ่ แต่บาง ส่วนจะนิ่มพอเอาเข้าปากก็แทบจะละลายในปากเลย


ถ้าคุณแม่คุณพ่อชอบทานปูทะเลต้องใจแข็งเดินเข้ามาให้ถึงร้านแถวในนะครับ อย่าเพิ่งรีบซื้อจากร้านแถวนอก เพราะร้านขายปูส่วนมากจะมารวมกันอยู่แถวใน พอเดินเข้ามาจะเห็นแม่ค้าหยิบเอาปูทะเลตัวโตๆยื่นมาแย่งกัน ขายให้เรา ร้านที่นี่เขาจะแบ่งปูตัวเมียปูตัวผู้ให้ลูกค้าเห็นชัดเจน ป้ายราคาก็ติดไว้ชัดเจน เป็นราคาเดียวกันแทบจะ ทุกร้าน แปลว่ามีการแข่งขันกันสูงมาก ปูทะเลฟิลิปินส์นี่ตัวโตนะครับ ราคาก็ถูกๆ อย่างปูตัวเมียเป็นๆ ไข่แน่นๆ ที่นี่ขายกันกิโลกรัมละไม่ถึง 700 บาทเองครับ
พอเดินเลือกหาซื้อของสดได้จนพอใจแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ต้องมาเลือกร้านที่เราอยากจะให้เขาปรุงอาหารให้ทาน ซึ่งมีให้เลือกหลายร้านหลายสไตล์ครับ ราคาในการปรุงให้เราก็ตกเมนูละ 200-300 บาท เท่านั้นเองไม่แพง ถ้าไม่อยากทำบาปเลือกของเป็นๆเองหรืออยากจะทานสบายๆ บางร้านเขาก็มีบริการไปเลือกซื้อของสดให้เราด้วย แต่เขาจะคิดค่าบริการเพิ่มอีกเล็กน้อย


ทานซีฟู้ดก็ต้องมีน้ำจิ้ม คนฟิลิปปินส์เขาก็มีน้ำจิ้มประจำชาติเหมือนที่คนไทยเรามีน้ำจิ้มซีฟู้ดกับน้ำปลาพริกขี้หนู เป็นน้ำจิ้มประจำชาติเหมือนกัน นะครับ แต่น้ำจิ้มที่คนฟิลิปปินส์นิยมคือน้ำจิ้มที่เอา คาลามานซิ ( Calamansi) หรือที่คนไทยเราเรียกส้มจี๊ดนั่นแหล่ะครับ เอามาบีบๆ แล้วใส่กระเทียมซอย ใส่พริกขี้หนูสดซอย เผ็ดขี้หนู ฟิลิปปินส์นี่ก็เผ็ดเอาเรื่องนะครับ ผมลองทำทานหลายหนเข้าก็ชักจะติดใจเหมือนกัน แต่ถ้าคุณแม่คุณพ่อ ติด น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยๆ ก็หยิบติดกระเป๋ามาด้วยสักขวดละกันนะครับ ส่วนผมถ้าเป็นอาหารทะเลผมขอเน้นความ หวานของอาหารทะเลที่สดๆ น้ำจิ้มจึงไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นัก บางทีน้ำจิ้มที่แซ่บเกินไปทำให้ลิ้นเราไม่ค่อยได้ รับรู้รสความหวานของอาหารทะเลสดๆซักเท่าไหร่
ผมไปทานกัน 8 คน ทุกคนทานกันเต็มที่แบบยังเหลือ เชื่อมั้ยครับทั้งค่าของสดปู ปลา กุ้ง กั้ง หอยนางฟ้าและ ค่าปรุงไม่รวมเครื่องดื่มควักกระเป๋าจ่ายไปไม่ถึง 4,000 บาทเอง น่าพาลูกรักไปทานมั้ยครับ?

[smartslider3 slider="9"]